ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
จำนวน 15 ฉบับ |
||
1 | งานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาแต่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ ได้แก่ งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่การทำงานปกติของลูกจ้าง เป็นต้น | [1],[2],[3],[4],[9] |
2 | ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีทำงานในสถานที่ ดังต่อไปนี้ (1) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (2) สถานประกอบกิจการที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการแปรรูปสัตว์น้ำ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 | [1],[2],[3],[4],[10] |
3 | นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโดยแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้านอาชีวเวชศาสตร์ หรือที่ผ่านการอบรมด้านอาชีวเวชศาสตร์ หรือที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งแรกให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน และตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง | [1],[2],[3],[4],[7] |
4 | ในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงานสามวันทำงานติดต่อกันเนื่องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยไม่ว่ากรณีใด ๆ นายจ้างอาจขอความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษา หรือแพทย์ประจำสถานประกอบกิจการหรือจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างก่อนให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานอีกก็ได้ | [1],[2],[3],[4],[7] |
5 | นายจ้างต้องจัดให้มีสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด และให้นายจ้างบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างในสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างตามผลการตรวจของแพทย์ทุกครั้งที่มีการตรวจสุขภาพ | [1],[2],[3],[4],[7] |
6 | นายจ้างต้องเก็บบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง รวมทั้งข้อมูลสุขภาพอื่นที่เกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดยให้เก็บไว้ ณ ที่ทำการของนายจ้างไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันสิ้นสุดของการจ้างแต่ละราย เว้นแต่มีการร้องทุกข์ว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับโรคหรืออันตรายอย่างใดต่อสุขภาพของลูกจ้าง แม้จะพ้นเวลาที่กำหนด ให้นายจ้างเก็บรักษาเอกสารนั้นไว้จนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ มิให้นายจ้างนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางที่เป็นโทษแก่ลูกจ้างโดยไม่มีเหตุอันสมควร | [1],[2],[3],[4],[7] |
7 | ในกรณีที่พบความผิดปกติของลูกจ้าง หรือลูกจ้างมีอาการหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันที และทำการตรวจสอบหรือหาสาเหตุของความผิดปกติเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน นายจ้างต้องส่งผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่พบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย การให้ การรักษาพยาบาลและการป้องกันแก้ไขต่อพนักงานตรวจแรงงานตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย | [1],[2],[3],[4],[7] |
8 | ถ้าลูกจ้างผู้ใดมีหลักฐานทางการแพทย์จากสถานพยาบาลของราชการหรือที่ราชการยอมรับ แสดงว่าไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมได้ ให้นายจ้างเปลี่ยนงานให้แก่ลูกจ้างผู้นั้นตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างเป็นสำคัญ | [1],[2],[3],[4],[7] |
9 | นายจ้างต้องมอบสมุดสุขภาพประจำตัวให้แก่ลูกจ้างเมื่อสิ้นสุดการจ้าง | [1],[2],[3],[4],[7] |
10 | นายจ้างต้องใช้ลูกจ้างทำงานยก แบก หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของหนักไม่เกินอัตราน้ำหนักโดยเฉลี่ยต่อลูกจ้างหนึ่งคน ดังนี้ (1) 20 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 15 ปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี (2) 25กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กชายอายุตั้งแต่ 15 ปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี (3) 25 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง (4) 50 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง ในกรณีของหนักเกินอัตราน้ำหนักที่กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีและให้ลูกจ้างใช้เครื่องทุ่นแรงที่เหมาะสม และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[8] |
11 | กฎหมายกำหนดแบบหนังสือรับรองการจ้างของผู้ซึ่งจะเป็นนายจ้าง | [1],[2],[3],[4],[11] |
12 | กฎหมายกำหนดแบบแจ้งการจ้าง แบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง และแบบแจ้งการสิ้นสุดการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี | [1],[2],[3],[4],[12] |
13 | กฎหมายกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้างในคณะกรรมการไตรภาคี | [1],[2],[3],[4],[13] |
14 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานอุตสาหกรรมต้องไม่เกินสัปดาห์ละสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
15 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้างห้ามมิให้เกินสัปดาห์ละสี่สิบสองชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
16 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานพาณิชยกรรมโดยปกติจะเกินสัปดาห์ละห้าสิบสี่ชั่วโมงไม่ได้ | [1],[2],[3],[4],[14] |
17 | นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีเวลาหยุดพักผ่อนติดต่อกันไม่น้อยกว่าวันละหนึ่งชั่วโมง เวลาพักผ่อนนี้ให้กำหนดหลังจากที่ลูกจ้างได้ทำงานมาแล้วในวันนั้นไม่เกินห้าชั่วโมงและไม่นับรวมเป็นเวลาทำงาน | [1],[2],[3],[4],[14] |
18 | ลูกจ้างซึ่งได้ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างเข้าทำงานมีสิทธิหยุดงานพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่าปีละหกวัน โดยไม่นับรวมกับวันหยุดงานประจำสัปดาห์และวันหยุดงานตามประเพณี | [1],[2],[3],[4],[14] |
19 | นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในวันหยุดตามกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
20 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้แรงงานหญิงเป็นลูกจ้างทำงานดังต่อไปนี้ (1) งานทำความสะอาดเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน (2) งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดิน 10 เมตรขึ้นไป (3) งานที่เลื่อยวงเดือน (4) งานผลิตหรือขนส่งวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ (5) งานเหมืองแร่ที่ต้องทำใต้ดิน (6) งานอื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
21 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้หญิงเป็นลูกจ้างทำงานในสถานที่ทำงานและในระหว่างเวลาดังนี้ (1) งานอุตสาหกรรมในระหว่างเวลา 22.00 น. และ 06.00น. (2) งานพาณิชยกรรมในระหว่างเวลา 24.00 น. และ 06.00 น. | [1],[2],[3],[4],[14] |
22 | ลูกจ้างที่เป็นหญิงมีครรภ์ ได้รับใบรับรองแพทย์มาแสดงสิทธิ์หยุดงานได้สามสิบวันก่อนวันคลอดและสามสิบวันภายหลังวันคลอด | [1],[2],[3],[4],[14] |
23 | ห้ามมิให้นายจ้างรับเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบสองปีเป็นลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[14] |
24 | ห้ามมิให้นายจ้างรับเด็กซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบสองปีขึ้นไปแต่ยังไม่ถึงสิบสี่ปีเป็นลูกจ้าง เว้นแต่งานนั้นเป็นงานเบา หรือเป็นงานที่ใช้บุคคลในครอบครัวทำ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและความเจริญเติบโตของร่างกาย และเวลาทำงานนั้นไม่ใช่เวลาเรียนตามปกติ ทั้งไม่เป็นการขัดต่อการศึกษาเล่าเรียนตามกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา | [1],[2],[3],[4],[14] |
25 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้เด็กซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบสิงปีขึ้นไป แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปีเป็นลูกจ้างทำงานเกินวันละแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
26 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้เด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีเป็นลูกจ้างทำงานในสถานที่ทำงานและในระหว่างเวลาดังนี้ (1) งานอุตสาหกรรมในระหว่างเวลา 22.00 น. และ 06.00น. (2) งานพาณิชยกรรมในระหว่างเวลา 24.00 น. และ 06.00 น. | [1],[2],[3],[4],[14] |
27 | นายจ้างต้องจัดให้มีน้ำสะอาดสำหรับน้ำดื่ม ห้องน้ำ ส้วม และเครื่องใช้อันจำเป็นสำหรับสุขภาพและอนามัย เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
28 | นายจ้างต้องจัดให้มีแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์ในการรักษาพยาบาล หรือปัจจัยในการปฐมพยาบาลตามความจำเป็นของสภาพงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างได้ทันท่วงที เพื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย | [1],[2],[3],[4],[14] |
29 | นายจ้างต้องจัดให้มีหลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของลูกจ้าง และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของลูกจ้าง และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเก็บไว้ในสถานที่ทำงานพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานได้ทุกโอกาส โดยเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี | [1],[2],[3],[4],[14] |
30 | กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[15] |
31 | ถ้านายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติตามวรรคหนึ่งเกินกว่าวันละแปดชั่วโมงสำหรับลูกจ้างซึ่งไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างในวันทำงาน สำหรับการทำงานแปดชั่วโมงและจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำเกินหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้ในชั่วโมงที่ทำเกินสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้าง ตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย และถ้าเป็นการทำงานในวันหยุดให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุด สำหรับการทำงานแปดชั่วโมงและจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง ในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำเกิน หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้ในชั่วโมงที่ทำเกินโดยคำนวณเป็นหน่วย | [1],[2],[3],[4],[9] |
32 | กฎหมายกำหนดให้งานบางประเภทให้มีการคุ้มครองแรงงานกรณีต่างๆ แตกต่างจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เช่น งานในกิจการปิโตรเลียมตามกฎหมายปิโตรเลียม งานที่ใช้วิชาชีพหรือวิชาการ งานด้านบริหารจัดการ งานเสมียนพนักงาน งานอาชีพเกี่ยวกับการค้า งานอาชีพบริการ งานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต งานในร้านขายอาหาร หรือร้านขายเครื่องดื่มที่เปิดจำหน่ายหรือให้บริการไม่ติดต่อกันในแต่ละวันที่มีการทำงาน งานอาชีพหรืองานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจ การขุดเจาะ การกลั่นแยกและการผลิตผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมี งานในตำแหน่งผู้บริหาร งานวิชาการ งานธุรการ และงานเร่ขายของหรือชักชวนซื้อสินค้า | [1],[2],[3],[4],[5] |
ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
จำนวน 15 ฉบับ |
||
1 | งานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาแต่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ ได้แก่ งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่การทำงานปกติของลูกจ้าง เป็นต้น | [1],[2],[3],[4],[9] |
2 | ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีทำงานในสถานที่ ดังต่อไปนี้ (1) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (2) สถานประกอบกิจการที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการแปรรูปสัตว์น้ำ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 | [1],[2],[3],[4],[10] |
3 | นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโดยแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้านอาชีวเวชศาสตร์ หรือที่ผ่านการอบรมด้านอาชีวเวชศาสตร์ หรือที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งแรกให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน และตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง | [1],[2],[3],[4],[7] |
4 | ในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงานสามวันทำงานติดต่อกันเนื่องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยไม่ว่ากรณีใด ๆ นายจ้างอาจขอความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษา หรือแพทย์ประจำสถานประกอบกิจการหรือจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างก่อนให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานอีกก็ได้ | [1],[2],[3],[4],[7] |
5 | นายจ้างต้องจัดให้มีสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด และให้นายจ้างบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างในสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างตามผลการตรวจของแพทย์ทุกครั้งที่มีการตรวจสุขภาพ | [1],[2],[3],[4],[7] |
6 | นายจ้างต้องเก็บบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง รวมทั้งข้อมูลสุขภาพอื่นที่เกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดยให้เก็บไว้ ณ ที่ทำการของนายจ้างไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันสิ้นสุดของการจ้างแต่ละราย เว้นแต่มีการร้องทุกข์ว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับโรคหรืออันตรายอย่างใดต่อสุขภาพของลูกจ้าง แม้จะพ้นเวลาที่กำหนด ให้นายจ้างเก็บรักษาเอกสารนั้นไว้จนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ มิให้นายจ้างนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางที่เป็นโทษแก่ลูกจ้างโดยไม่มีเหตุอันสมควร | [1],[2],[3],[4],[7] |
7 | ในกรณีที่พบความผิดปกติของลูกจ้าง หรือลูกจ้างมีอาการหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันที และทำการตรวจสอบหรือหาสาเหตุของความผิดปกติเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน นายจ้างต้องส่งผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่พบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย การให้ การรักษาพยาบาลและการป้องกันแก้ไขต่อพนักงานตรวจแรงงานตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย | [1],[2],[3],[4],[7] |
8 | ถ้าลูกจ้างผู้ใดมีหลักฐานทางการแพทย์จากสถานพยาบาลของราชการหรือที่ราชการยอมรับ แสดงว่าไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมได้ ให้นายจ้างเปลี่ยนงานให้แก่ลูกจ้างผู้นั้นตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างเป็นสำคัญ | [1],[2],[3],[4],[7] |
9 | นายจ้างต้องมอบสมุดสุขภาพประจำตัวให้แก่ลูกจ้างเมื่อสิ้นสุดการจ้าง | [1],[2],[3],[4],[7] |
10 | นายจ้างต้องใช้ลูกจ้างทำงานยก แบก หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของหนักไม่เกินอัตราน้ำหนักโดยเฉลี่ยต่อลูกจ้างหนึ่งคน ดังนี้ (1) 20 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 15 ปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี (2) 25กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กชายอายุตั้งแต่ 15 ปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี (3) 25 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง (4) 50 กิโลกรัมสำหรับลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง ในกรณีของหนักเกินอัตราน้ำหนักที่กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีและให้ลูกจ้างใช้เครื่องทุ่นแรงที่เหมาะสม และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[8] |
11 | กฎหมายกำหนดแบบหนังสือรับรองการจ้างของผู้ซึ่งจะเป็นนายจ้าง | [1],[2],[3],[4],[11] |
12 | กฎหมายกำหนดแบบแจ้งการจ้าง แบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง และแบบแจ้งการสิ้นสุดการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี | [1],[2],[3],[4],[12] |
13 | กฎหมายกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้างในคณะกรรมการไตรภาคี | [1],[2],[3],[4],[13] |
14 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานอุตสาหกรรมต้องไม่เกินสัปดาห์ละสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
15 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้างห้ามมิให้เกินสัปดาห์ละสี่สิบสองชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
16 | เวลาทำงานของลูกจ้างในงานพาณิชยกรรมโดยปกติจะเกินสัปดาห์ละห้าสิบสี่ชั่วโมงไม่ได้ | [1],[2],[3],[4],[14] |
17 | นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีเวลาหยุดพักผ่อนติดต่อกันไม่น้อยกว่าวันละหนึ่งชั่วโมง เวลาพักผ่อนนี้ให้กำหนดหลังจากที่ลูกจ้างได้ทำงานมาแล้วในวันนั้นไม่เกินห้าชั่วโมงและไม่นับรวมเป็นเวลาทำงาน | [1],[2],[3],[4],[14] |
18 | ลูกจ้างซึ่งได้ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างเข้าทำงานมีสิทธิหยุดงานพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่าปีละหกวัน โดยไม่นับรวมกับวันหยุดงานประจำสัปดาห์และวันหยุดงานตามประเพณี | [1],[2],[3],[4],[14] |
19 | นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในวันหยุดตามกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
20 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้แรงงานหญิงเป็นลูกจ้างทำงานดังต่อไปนี้ (1) งานทำความสะอาดเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน (2) งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดิน 10 เมตรขึ้นไป (3) งานที่เลื่อยวงเดือน (4) งานผลิตหรือขนส่งวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ (5) งานเหมืองแร่ที่ต้องทำใต้ดิน (6) งานอื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
21 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้หญิงเป็นลูกจ้างทำงานในสถานที่ทำงานและในระหว่างเวลาดังนี้ (1) งานอุตสาหกรรมในระหว่างเวลา 22.00 น. และ 06.00น. (2) งานพาณิชยกรรมในระหว่างเวลา 24.00 น. และ 06.00 น. | [1],[2],[3],[4],[14] |
22 | ลูกจ้างที่เป็นหญิงมีครรภ์ ได้รับใบรับรองแพทย์มาแสดงสิทธิ์หยุดงานได้สามสิบวันก่อนวันคลอดและสามสิบวันภายหลังวันคลอด | [1],[2],[3],[4],[14] |
23 | ห้ามมิให้นายจ้างรับเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบสองปีเป็นลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[14] |
24 | ห้ามมิให้นายจ้างรับเด็กซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบสองปีขึ้นไปแต่ยังไม่ถึงสิบสี่ปีเป็นลูกจ้าง เว้นแต่งานนั้นเป็นงานเบา หรือเป็นงานที่ใช้บุคคลในครอบครัวทำ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและความเจริญเติบโตของร่างกาย และเวลาทำงานนั้นไม่ใช่เวลาเรียนตามปกติ ทั้งไม่เป็นการขัดต่อการศึกษาเล่าเรียนตามกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา | [1],[2],[3],[4],[14] |
25 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้เด็กซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบสิงปีขึ้นไป แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปีเป็นลูกจ้างทำงานเกินวันละแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
26 | ห้ามมิให้นายจ้างใช้เด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีเป็นลูกจ้างทำงานในสถานที่ทำงานและในระหว่างเวลาดังนี้ (1) งานอุตสาหกรรมในระหว่างเวลา 22.00 น. และ 06.00น. (2) งานพาณิชยกรรมในระหว่างเวลา 24.00 น. และ 06.00 น. | [1],[2],[3],[4],[14] |
27 | นายจ้างต้องจัดให้มีน้ำสะอาดสำหรับน้ำดื่ม ห้องน้ำ ส้วม และเครื่องใช้อันจำเป็นสำหรับสุขภาพและอนามัย เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[14] |
28 | นายจ้างต้องจัดให้มีแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์ในการรักษาพยาบาล หรือปัจจัยในการปฐมพยาบาลตามความจำเป็นของสภาพงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างได้ทันท่วงที เพื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย | [1],[2],[3],[4],[14] |
29 | นายจ้างต้องจัดให้มีหลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของลูกจ้าง และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของลูกจ้าง และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเก็บไว้ในสถานที่ทำงานพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานได้ทุกโอกาส โดยเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี | [1],[2],[3],[4],[14] |
30 | กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[15] |
31 | ถ้านายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติตามวรรคหนึ่งเกินกว่าวันละแปดชั่วโมงสำหรับลูกจ้างซึ่งไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างในวันทำงาน สำหรับการทำงานแปดชั่วโมงและจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำเกินหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้ในชั่วโมงที่ทำเกินสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้าง ตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย และถ้าเป็นการทำงานในวันหยุดให้จ่ายค่าทำงานในวันหยุด สำหรับการทำงานแปดชั่วโมงและจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง ในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำเกิน หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้ในชั่วโมงที่ทำเกินโดยคำนวณเป็นหน่วย | [1],[2],[3],[4],[9] |
32 | กฎหมายกำหนดให้งานบางประเภทให้มีการคุ้มครองแรงงานกรณีต่างๆ แตกต่างจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เช่น งานในกิจการปิโตรเลียมตามกฎหมายปิโตรเลียม งานที่ใช้วิชาชีพหรือวิชาการ งานด้านบริหารจัดการ งานเสมียนพนักงาน งานอาชีพเกี่ยวกับการค้า งานอาชีพบริการ งานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต งานในร้านขายอาหาร หรือร้านขายเครื่องดื่มที่เปิดจำหน่ายหรือให้บริการไม่ติดต่อกันในแต่ละวันที่มีการทำงาน งานอาชีพหรืองานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจ การขุดเจาะ การกลั่นแยกและการผลิตผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมี งานในตำแหน่งผู้บริหาร งานวิชาการ งานธุรการ และงานเร่ขายของหรือชักชวนซื้อสินค้า | [1],[2],[3],[4],[5] |
ลำดับ | รายชื่อกฎหมาย | กฎหมาย |
---|---|---|
1 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
2 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 | |
3 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 | |
4 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2553 | |
5 | พระราชกฤษฎีกา กำหนดงานที่ให้มีการคุ้มครองแรงงานแตกต่างไปจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
6 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
7 | กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง และส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. 2547 | |
8 | กฎกระทรวง กำหนดอัตราน้ำหนักที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานได้ พ.ศ. 2547 | |
9 | กฎกระทรวง กำหนดงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุด พ.ศ. 2552 | |
10 | กฎกระทรวง กำหนดสถานที่ที่ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีทำงาน พ.ศ. 2559 | |
11 | ประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง กำหนดแบบหนังสือรับรองการจ้าง | |
12 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดแบบแจ้งการจ้าง แบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง และแบบแจ้งการสิ้นสุดการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี | |
13 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายลูกจ้างในคณะกรรมการไตรภาคี พ.ศ. 2551 | |
14 | ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดเวลาทำงาน วันหยุดงานของลูกจ้าง การใช้แรงงานหญิงและเด็ก การจ่ายค่าจ้าง และการจัดให้มีสวัสดิการเพื่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้าง | |
15 | ระเบียบกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ในคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พ.ศ. 2541 |
ลำดับ | รายชื่อฟอร์ม | แบบฟอร์ม |
---|---|---|
1 | แบบหนังสือรับรองการจ้าง (FORM OF EMPLOYMENT CERTIFICATION) |