ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
จำนวน 22 ฉบับ |
||
1 | ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรมซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งร้อยแปดสิบวันมีสิทธิหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยกว่าสามวันทำงาน โดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้าหรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน | [1],[2],[3],[4],[17] |
2 | ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรมมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง การลาป่วยตั้งแต่สามวันทำงานขึ้นไปนายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาลของทางราชการในกรณีที่ลูกจ้างไม่อาจแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาลของทางราชการได้ให้ลูกจ้างชี้แจงนายจ้างทราบ | [1],[2],[3],[4],[17] |
3 | นายจ้างจัดให้มีน้ำสะอาดสำหรับดื่มโดยมีปริมาณเพียงพอแก่ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรม และในกรณีลูกจ้างพักอาศัยอยู่กับนายจ้าง นายจ้างต้องจัดหาที่พักอาศัยที่สะอาด ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยให้แก่ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรม | [1],[2],[3],[4],[17] |
4 | นายจ้างผู้ซึ่งส่งมอบงานให้ลูกจ้างที่รับงานไปทำที่บ้าน แจ้งให้พนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้าก่อนวันส่งมอบงานดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[18] |
5 | ห้ามเจ้าของเรือให้บุคคลอายุต่ำกว่าสิบหกปีบริบูรณ์ทำงานบนเรือ | [1],[2],[3],[4],[5] |
6 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือซึ่งอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ทำงานในเวลากลางคืน เว้นแต่เป็นการฝึกอบรมที่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า หรือเป็นการฝึกอบรมตามตำแหน่งหน้าที่ที่คนประจำเรือต้องทำในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งต้องไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคนประจำเรือ โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมอบหมาย ทั้งนี้การทำงานเวลากลางคืนต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยเก้าชั่วโมง โดยเริ่มต้นก่อนเที่ยงคืนและสิ้นสุดหลังจากเวลาห้านาฬิกาเป็นต้นไป | [1],[2],[3],[4],[5] |
7 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือซึ่งอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือความปลอดภัยของคนประจำเรือตามประเภทของงานที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
8 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือทำงานบนเรือ โดยที่คนประจำเรือไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงว่ามีความพร้อมด้านสุขภาพในการทำงานบนเรือ หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
9 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือทำงานบนเรือ เว้นแต่คนประจำเรือได้รับการฝึกอบรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
10 | ห้ามผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน การขออนุญาต การอนุญาต และการออกใบอนุญาตจัดหางาน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำหนดในกฎกระทรวง | [1],[2],[3],[4],[5] |
11 | เจ้าของเรือต้องจัดให้มีข้อตกลงการจ้างงานของคนประจำเรือเป็นหนังสือพร้อมลายมือชื่อของเจ้าของเรือและคนประจำเรือ โดยจัดทำเป็นคู่ฉบับจัดเก็บไว้บนเรือหนึ่งฉบับ และอีกฉบับหนึ่งให้คนประจำเรือเก็บไว้ พร้อมที่จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ | [1],[2],[3],[4],[5] |
12 | คนประจำเรือมีสิทธิลาขึ้นฝั่งได้ตามที่ได้ตกลงกับเจ้าของเรือ เว้นแต่กรณีลาขึ้นฝั่งด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
13 | คนประจำเรือมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริงโดยได้รับค่าจ้างแต่ไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบวัน | [1],[2],[3],[4],[5] |
14 | เจ้าของเรือประกาศเวลาทำงานปกติให้คนประจำเรือทราบโดยกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของการทำงานแต่ละวันของคนประจำเรือซึ่งต้องไม่เกินแปดชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[5] |
15 | เจ้าของเรือต้องจัดให้คนประจำเรือมีชั่วโมงการพักผ่อนไม่น้อยกว่าสิบชั่วโมงในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมง และไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบเจ็ดชั่วโมงในรอบเจ็ดวัน | [1],[2],[3],[4],[5] |
16 | เจ้าของเรือต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับ เงื่อนไขในการทำงานบนเรือ การจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ สภาพการจ้าง การส่งตัวกลับ ค่าสินไหมทดแทนกรณีเรือเสียหายหรือเรือจม อัตรากำลัง มาตรฐานที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และโภชนาการบนเรือ การจัดให้มีการรักษาพยาบาล การคุ้มครองต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของคนประจำเรือ ใบรับรองด้านแรงงานทางทะเลและใบประกาศการปฏิบัติด้านแรงงานทางทะเล การร้องเรียนบนเรือ และสิทธิการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง | [1],[2],[3],[4],[5] |
17 | นายจ้างต้องกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดการทำงานปกติของลูกจ้างในงานขนส่งทางบกวันหนึ่งไม่เกินแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
18 | ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะทำงานล่วงเวลา เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[14] |
19 | นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะมีเวลาพักติดต่อกันวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะได้ทำงานแล้วไม่เกินสี่ชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
20 | ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะเริ่มต้นทำงานในวันทำงานถัดไปก่อนครบระยะเวลาสิบชั่วโมงหลังจากสิ้นสุดการทำงานในวันทำงานที่ล่วงมาแล้ว | [1],[2],[3],[4],[14] |
21 | ให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติ โดยกำหนดเวลา เริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของการทำงาน แต่วันหนึ่งต้องไม่เกินสิบสองชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[15] |
22 | กฎหมายกำหนดเรื่องการคุ้มครองให้ลูกจ้างที่ทำงานบ้าน | [1],[2],[3],[4],[16] |
23 | งานทุกประเภทมีเวลาทำงานปกติวันหนึ่งไม่เกินแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[6] |
24 | งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง โดยสภาพของงานมีความเสี่ยงอันตรายสูง หรือมีภาวะแวดล้อมในการทำงานเกินมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ในกฎหมายซึ่งไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขที่แหล่งกำเนิดได้ ผู้ประกอบกิจการต้องจัดให้มีการป้องกันที่ตัวบุคคล | [1],[2],[3],[4],[12] |
25 | ชั่วโมงทำงานล่วงเวลาและชั่วโมงทำงานในวันหยุด เมื่อรวมกันแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสามสิบหกชั่วโมง และชั่วโมงทำงานในวันหยุดให้หมายความรวมถึงชั่วโมงทำงานล่วงเวลาในวันหยุดด้วย | [1],[2],[3],[4],[7] |
26 | งานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดทำงานในวันหยุดตามประเพณีได้แก่งานดังต่อไปนี้ (1) งานในกิจการโรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม สโมสร สมาคม สถานพยาบาลและสถานบริการท่องเที่ยว (2) งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร งานขนส่ง และงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่ต้องทำติดต่อกันไปถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน | [1],[2],[3],[4],[8] |
27 | ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อการแรงงานและสวัสดิการสังคม หรือการเพิ่มทักษะความชำนาญ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลูกจ้าง หรือ เพื่อสอบวัดผลการศึกษาที่ทางราชการจัดหรืออนุญาตให้จัดขึ้น ทั้งนี้ลูกจ้าต้องแจ้งถึงเหตุที่ลาโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้นายจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันลาเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ทั้งนี้นายจ้างอาจไม่อนุญาตให้ลูกจ้างลา เพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถได้ในกรณีที่ลูกจ้างเคยได้รับอนุญาตให้ลาเพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถแล้วไม่น้อยกว่า 30 วันหรือ 3 ครั้งในปีนั้น หรือในกรณีที่นายจ้างแสดงให้เห็นว่าการลาของลูกจ้างอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการประกอบกิจการของนายจ้าง | [1],[2],[3],[4],[9] |
28 | งานซึ่งห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำ ได้แก่ (1) งานเกี่ยวกับความร้อน ความเย็น ความสั่นสะเทือน และเสียงอันอาจเป็นอันตราย ตามที่กฎหมายกำหนด (2) งานเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นอันตราย วัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ ตามที่กฎหมายกำหนด (3) งานที่เกี่ยวกับจุลชีวันเป็นพิษซึ่งอาจเป็นไวรัส แบคทีเรีย รา หรือเชื้ออื่น ตามที่กฎหมายกำหนด (4) งานขับหรือบังคับรถยกหรือปั่นจั่นที่ใช้พลังงานเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าไม่ว่าการขับหรือบังคับจะกระทำในลักษณะใด (5) งานเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสีทุกชนิด | [1],[2],[3],[4],[10] |
29 | งานในกิจการปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม รวมตลอดถึงงานซ่อมบำรุงและงานให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับงานดังกล่าว เฉพาะที่ทำในแปลงสำรวจและพื้นที่ผลิต ให้มีการคุ้มครองแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[11] |
30 | งานที่ใช้วิชาชีพหรือวิชาการงานด้านบริหารและงานจัดการ งานเสมียนพนักงาน งานอาชีพเกี่ยวกับการค้า งานอาชีพบริการ งานที่เกี่ยวกับการผลิต หรืองานที่เกี่ยวข้องกับงานดังกล่าว นายจ้างและลูกจ้างอาจตดลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติในวันหนึ่งๆเป็นจำนวนชั่วโมงก็ได้ แต่เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[11] |
31 | งานในร้านขายอาหารหรือร้านขายเครื่องดื่มที่เปิดจำหน่ายหรือให้บริการไม่ติดต่อกันในแต่ละวันที่มีการทำงาน นายจ้างอาจจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งเกินสองชั่วโมงก็ได้ | [1],[2],[3],[4],[11] |
32 | นายจ้างอาจให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงทำงานในวิชาชีพหรือวิชาการเกี่ยวกับการสำรวจ การขุดเจาะ การกลั่นแยก และการผลิตผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมได้ ถ้าสภาพหรือลักษณะของงานนั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้างนั้น | [1],[2],[3],[4],[11] |
33 | นายจ้างอาจให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ที่ทำงานในตำแหน่งบริหาร งานวิชาการ งานธุรการ รวมทั้งงานเกี่ยวกับการเงินหรือบัญชี ทำงานล่วงเวลาในวันทำงานได้โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้างนั้น | [1],[2],[3],[4],[11] |
34 | ลูกจ้างที่ทำงานในงานเร่ขายหรือชักชวนซื้อสินค้าถ้านายจ้างได้จ่ายค่านายหน้าจากการขายสินค้าให้แก้ลูกจ้างแล้ว ลูกจ้างนั้นไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่นายจ้างตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาหรือค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[11] |
35 | งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินเป็นงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในวันหยุด แต่ให้สิทธิได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานที่ทำ | [1],[2],[3],[4],[12] |
36 | นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทำงานในงานเกษตรกรรม และงานที่รับไปทำที่บ้านไม่ต้องใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แต่ให้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามในกฎกระทรวงที่กำหนดการคุ้มครองแรงงานในกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง | [1],[2],[3],[4],[13] |
37 | นายจ้างต้องแจ้งรายละเอียดของการส่งมอบงานที่รับไปทำที่บ้านต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | [1],[2],[3],[4],[21] |
38 | กฎหมายกำหนดแบบสัญญาจ้างลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.1) แบบจัดเวลาพักในงานประมงทะเล (แบบ ปม. 2) ทะเบียนลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.3) แบบรายงานตัวลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม. 4) | [1],[2],[3],[4],[19],[20] |
39 | บุคคลที่จะเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานต้องผ่านการอบรมหรือสัมมนาหลักสูตรตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[22],[23] |
ลำดับ | เรื่องที่ต้องปฏิบัติ |
อ้างอิงกฎหมาย ฉบับที่ |
---|---|---|
พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
จำนวน 22 ฉบับ |
||
1 | ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรมซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งร้อยแปดสิบวันมีสิทธิหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยกว่าสามวันทำงาน โดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้าหรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน | [1],[2],[3],[4],[17] |
2 | ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรมมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง การลาป่วยตั้งแต่สามวันทำงานขึ้นไปนายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาลของทางราชการในกรณีที่ลูกจ้างไม่อาจแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาลของทางราชการได้ให้ลูกจ้างชี้แจงนายจ้างทราบ | [1],[2],[3],[4],[17] |
3 | นายจ้างจัดให้มีน้ำสะอาดสำหรับดื่มโดยมีปริมาณเพียงพอแก่ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรม และในกรณีลูกจ้างพักอาศัยอยู่กับนายจ้าง นายจ้างต้องจัดหาที่พักอาศัยที่สะอาด ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยให้แก่ลูกจ้างทำงานเกษตรกรรม | [1],[2],[3],[4],[17] |
4 | นายจ้างผู้ซึ่งส่งมอบงานให้ลูกจ้างที่รับงานไปทำที่บ้าน แจ้งให้พนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้าก่อนวันส่งมอบงานดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[18] |
5 | ห้ามเจ้าของเรือให้บุคคลอายุต่ำกว่าสิบหกปีบริบูรณ์ทำงานบนเรือ | [1],[2],[3],[4],[5] |
6 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือซึ่งอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ทำงานในเวลากลางคืน เว้นแต่เป็นการฝึกอบรมที่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า หรือเป็นการฝึกอบรมตามตำแหน่งหน้าที่ที่คนประจำเรือต้องทำในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งต้องไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคนประจำเรือ โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมอบหมาย ทั้งนี้การทำงานเวลากลางคืนต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยเก้าชั่วโมง โดยเริ่มต้นก่อนเที่ยงคืนและสิ้นสุดหลังจากเวลาห้านาฬิกาเป็นต้นไป | [1],[2],[3],[4],[5] |
7 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือซึ่งอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือความปลอดภัยของคนประจำเรือตามประเภทของงานที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
8 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือทำงานบนเรือ โดยที่คนประจำเรือไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงว่ามีความพร้อมด้านสุขภาพในการทำงานบนเรือ หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
9 | ห้ามเจ้าของเรือให้คนประจำเรือทำงานบนเรือ เว้นแต่คนประจำเรือได้รับการฝึกอบรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
10 | ห้ามผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน การขออนุญาต การอนุญาต และการออกใบอนุญาตจัดหางาน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำหนดในกฎกระทรวง | [1],[2],[3],[4],[5] |
11 | เจ้าของเรือต้องจัดให้มีข้อตกลงการจ้างงานของคนประจำเรือเป็นหนังสือพร้อมลายมือชื่อของเจ้าของเรือและคนประจำเรือ โดยจัดทำเป็นคู่ฉบับจัดเก็บไว้บนเรือหนึ่งฉบับ และอีกฉบับหนึ่งให้คนประจำเรือเก็บไว้ พร้อมที่จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ | [1],[2],[3],[4],[5] |
12 | คนประจำเรือมีสิทธิลาขึ้นฝั่งได้ตามที่ได้ตกลงกับเจ้าของเรือ เว้นแต่กรณีลาขึ้นฝั่งด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนด | [1],[2],[3],[4],[5] |
13 | คนประจำเรือมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริงโดยได้รับค่าจ้างแต่ไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบวัน | [1],[2],[3],[4],[5] |
14 | เจ้าของเรือประกาศเวลาทำงานปกติให้คนประจำเรือทราบโดยกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของการทำงานแต่ละวันของคนประจำเรือซึ่งต้องไม่เกินแปดชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[5] |
15 | เจ้าของเรือต้องจัดให้คนประจำเรือมีชั่วโมงการพักผ่อนไม่น้อยกว่าสิบชั่วโมงในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมง และไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบเจ็ดชั่วโมงในรอบเจ็ดวัน | [1],[2],[3],[4],[5] |
16 | เจ้าของเรือต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับ เงื่อนไขในการทำงานบนเรือ การจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานเป็นคนประจำเรือ สภาพการจ้าง การส่งตัวกลับ ค่าสินไหมทดแทนกรณีเรือเสียหายหรือเรือจม อัตรากำลัง มาตรฐานที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และโภชนาการบนเรือ การจัดให้มีการรักษาพยาบาล การคุ้มครองต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของคนประจำเรือ ใบรับรองด้านแรงงานทางทะเลและใบประกาศการปฏิบัติด้านแรงงานทางทะเล การร้องเรียนบนเรือ และสิทธิการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง | [1],[2],[3],[4],[5] |
17 | นายจ้างต้องกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดการทำงานปกติของลูกจ้างในงานขนส่งทางบกวันหนึ่งไม่เกินแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
18 | ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะทำงานล่วงเวลา เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[14] |
19 | นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะมีเวลาพักติดต่อกันวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะได้ทำงานแล้วไม่เกินสี่ชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[14] |
20 | ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะเริ่มต้นทำงานในวันทำงานถัดไปก่อนครบระยะเวลาสิบชั่วโมงหลังจากสิ้นสุดการทำงานในวันทำงานที่ล่วงมาแล้ว | [1],[2],[3],[4],[14] |
21 | ให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติ โดยกำหนดเวลา เริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของการทำงาน แต่วันหนึ่งต้องไม่เกินสิบสองชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[15] |
22 | กฎหมายกำหนดเรื่องการคุ้มครองให้ลูกจ้างที่ทำงานบ้าน | [1],[2],[3],[4],[16] |
23 | งานทุกประเภทมีเวลาทำงานปกติวันหนึ่งไม่เกินแปดชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[6] |
24 | งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง โดยสภาพของงานมีความเสี่ยงอันตรายสูง หรือมีภาวะแวดล้อมในการทำงานเกินมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ในกฎหมายซึ่งไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขที่แหล่งกำเนิดได้ ผู้ประกอบกิจการต้องจัดให้มีการป้องกันที่ตัวบุคคล | [1],[2],[3],[4],[12] |
25 | ชั่วโมงทำงานล่วงเวลาและชั่วโมงทำงานในวันหยุด เมื่อรวมกันแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสามสิบหกชั่วโมง และชั่วโมงทำงานในวันหยุดให้หมายความรวมถึงชั่วโมงทำงานล่วงเวลาในวันหยุดด้วย | [1],[2],[3],[4],[7] |
26 | งานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดทำงานในวันหยุดตามประเพณีได้แก่งานดังต่อไปนี้ (1) งานในกิจการโรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม สโมสร สมาคม สถานพยาบาลและสถานบริการท่องเที่ยว (2) งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร งานขนส่ง และงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่ต้องทำติดต่อกันไปถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน | [1],[2],[3],[4],[8] |
27 | ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อการแรงงานและสวัสดิการสังคม หรือการเพิ่มทักษะความชำนาญ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลูกจ้าง หรือ เพื่อสอบวัดผลการศึกษาที่ทางราชการจัดหรืออนุญาตให้จัดขึ้น ทั้งนี้ลูกจ้าต้องแจ้งถึงเหตุที่ลาโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้นายจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันลาเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ทั้งนี้นายจ้างอาจไม่อนุญาตให้ลูกจ้างลา เพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถได้ในกรณีที่ลูกจ้างเคยได้รับอนุญาตให้ลาเพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถแล้วไม่น้อยกว่า 30 วันหรือ 3 ครั้งในปีนั้น หรือในกรณีที่นายจ้างแสดงให้เห็นว่าการลาของลูกจ้างอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการประกอบกิจการของนายจ้าง | [1],[2],[3],[4],[9] |
28 | งานซึ่งห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำ ได้แก่ (1) งานเกี่ยวกับความร้อน ความเย็น ความสั่นสะเทือน และเสียงอันอาจเป็นอันตราย ตามที่กฎหมายกำหนด (2) งานเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นอันตราย วัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ ตามที่กฎหมายกำหนด (3) งานที่เกี่ยวกับจุลชีวันเป็นพิษซึ่งอาจเป็นไวรัส แบคทีเรีย รา หรือเชื้ออื่น ตามที่กฎหมายกำหนด (4) งานขับหรือบังคับรถยกหรือปั่นจั่นที่ใช้พลังงานเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าไม่ว่าการขับหรือบังคับจะกระทำในลักษณะใด (5) งานเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสีทุกชนิด | [1],[2],[3],[4],[10] |
29 | งานในกิจการปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม รวมตลอดถึงงานซ่อมบำรุงและงานให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับงานดังกล่าว เฉพาะที่ทำในแปลงสำรวจและพื้นที่ผลิต ให้มีการคุ้มครองแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[11] |
30 | งานที่ใช้วิชาชีพหรือวิชาการงานด้านบริหารและงานจัดการ งานเสมียนพนักงาน งานอาชีพเกี่ยวกับการค้า งานอาชีพบริการ งานที่เกี่ยวกับการผลิต หรืองานที่เกี่ยวข้องกับงานดังกล่าว นายจ้างและลูกจ้างอาจตดลงกันกำหนดเวลาทำงานปกติในวันหนึ่งๆเป็นจำนวนชั่วโมงก็ได้ แต่เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง | [1],[2],[3],[4],[11] |
31 | งานในร้านขายอาหารหรือร้านขายเครื่องดื่มที่เปิดจำหน่ายหรือให้บริการไม่ติดต่อกันในแต่ละวันที่มีการทำงาน นายจ้างอาจจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งเกินสองชั่วโมงก็ได้ | [1],[2],[3],[4],[11] |
32 | นายจ้างอาจให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงทำงานในวิชาชีพหรือวิชาการเกี่ยวกับการสำรวจ การขุดเจาะ การกลั่นแยก และการผลิตผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมได้ ถ้าสภาพหรือลักษณะของงานนั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้างนั้น | [1],[2],[3],[4],[11] |
33 | นายจ้างอาจให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ที่ทำงานในตำแหน่งบริหาร งานวิชาการ งานธุรการ รวมทั้งงานเกี่ยวกับการเงินหรือบัญชี ทำงานล่วงเวลาในวันทำงานได้โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้างนั้น | [1],[2],[3],[4],[11] |
34 | ลูกจ้างที่ทำงานในงานเร่ขายหรือชักชวนซื้อสินค้าถ้านายจ้างได้จ่ายค่านายหน้าจากการขายสินค้าให้แก้ลูกจ้างแล้ว ลูกจ้างนั้นไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่นายจ้างตกลงจ่ายค่าล่วงเวลาหรือค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง | [1],[2],[3],[4],[11] |
35 | งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินเป็นงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในวันหยุด แต่ให้สิทธิได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานที่ทำ | [1],[2],[3],[4],[12] |
36 | นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทำงานในงานเกษตรกรรม และงานที่รับไปทำที่บ้านไม่ต้องใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แต่ให้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามในกฎกระทรวงที่กำหนดการคุ้มครองแรงงานในกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง | [1],[2],[3],[4],[13] |
37 | นายจ้างต้องแจ้งรายละเอียดของการส่งมอบงานที่รับไปทำที่บ้านต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | [1],[2],[3],[4],[21] |
38 | กฎหมายกำหนดแบบสัญญาจ้างลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.1) แบบจัดเวลาพักในงานประมงทะเล (แบบ ปม. 2) ทะเบียนลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.3) แบบรายงานตัวลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม. 4) | [1],[2],[3],[4],[19],[20] |
39 | บุคคลที่จะเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานต้องผ่านการอบรมหรือสัมมนาหลักสูตรตามที่กฎหมายกำหนด | [1],[2],[3],[4],[22],[23] |
ลำดับ | รายชื่อกฎหมาย | กฎหมาย |
---|---|---|
1 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
2 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 | |
3 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 | |
4 | พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2553 | |
5 | พระราชบัญญัติ แรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 | |
6 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
7 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
8 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
9 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
10 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
11 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
12 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
13 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
14 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
15 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
16 | กฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2555) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 | |
17 | กฎกระทรวง คุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2557 | |
18 | กฎกระทรวง ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานที่รับไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2557 | |
19 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดแบบทะเบียนลูกจ้างในงานประมงทะเล | |
20 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดแบบสัญญาจ้างลูกจ้างในงานประมงทะเล | |
21 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งการส่งมอบงานที่รับไปทำที่บ้าน (ฉบับที่ 2) | |
22 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักสูตรเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายการคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2553 | |
23 | ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาพัฒนามาตรฐานแรงงาน พ.ศ. 2550 |
ลำดับ | รายชื่อฟอร์ม | แบบฟอร์ม |
---|---|---|
1 | สัญญาจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.1) |
|
2 | แบบจัดเวลาพักในงานประมงทะเล (แบบ ปม.2) |
|
3 | ทะเบียนลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.3) |
|
4 | แบบรายงานตัวลูกจ้างในงานประมงทะเล (แบบ ปม.4) |
|