นางสาวนลินี กาญจนามัย รผก.บร และเจ้าหน้าที่กองลูกค้าสัมพันธ์ ดำเนินกิจกรรมชักจูงการลงทุน Manufacturing World Tokyo 2025 "M-Tech Tokyo 2025" ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (Thai Subcon) ระหว่างวันที่ 6-12 กรกฎาคม 2568 ณ มหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

??วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2568
เข้าเยี่ยมชมผู้ประกอบการบริษัท Future Ecology Co., Ltd. (ในเครือ Big Camera Group) ณ โรงงานที่ตำบล Ota-ku มหานครโตเกียว ประกอบกิจการรีไซเคิลแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ ตู้เย็น ทีวี โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ ตามนโยบายรัฐบาลญี่ปุ่นในการมุ่งเน้น Circular Economy และ SDGs โดยสามารถทำการแยกชิ้นส่วนและนำกลับไปขายได้ใหม่ 91-99% ซึ่งไทยสามารถนำไปเป็นตัวอย่างการ recycle ชิ้นส่วนจากผลิตภัณฑ์ใช้แล้วยั่งยืน อีกทั้งมีความสามารถในเชิงธุรกิจเช่นกัน

เข้าร่วมกิจกรรม Thailand-Japan Business Opportunity Exchange : Thailand-Japan Business Matching การจับคู่ธุรกิจ ภายในงาน รผก.บร. ได้ขึ้นกล่าวเชิญชวนคณะนักลงทุนญี่ปุ่น และสร้างความมั่นใจการลงทุนในนิคมฯ ที่มีความพร้อมทั้งขนาดพื้นที่, สาธารณูปโภคตามมาตรฐานสากล และการให้บริการที่ดีมีคุณภาพที่จะรองรับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยมีผู้บริหารของหน่วยงานไทย-ญี่ปุ่น เข้าร่วมงาน อาทิ นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการ BOI, Mr. Yamate Hitoshi (Senior Managing Director of Tokyo SME Support Center) และ Mr. Kurobe Atsushi (President of Tokyo Metropolitan Industrial Technology Research Institute และผู้ประกอบการญี่ปุ่น ณ Tokyo Metropolitan Industrial Technology Research Institute (TIRI) นครโตเกียว

กิจกรรมดังกล่าวมีบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทไทยเข้าร่วมเจรจาธุรกิจมากกว่า 37 บริษัท มีการเจรจาธุรกิจ 61 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าเชื่อมโยงไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วน

พบว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังมีแนวโน้มสนใจการลงทุนในประเทศไทย และต้องการหา Supply Chains เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ฐานอุตสาหกรรมเดิมในประเทศไทย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และอะไหล่, เครื่องใช้ไฟฟ้า,อิเล็กทรอนิกส์, รวมถึงปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน, สภาพแวดล้อมการเป็นอยู่, ความน่าเชื่อถือของภาครัฐ เป็นต้น

??วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568
เข้าเยี่ยมชมผู้ประกอบการบริษัท Eco-R Co., Ltd. ณ จังหวัด Tochigi ภายในสวนฯ Nishikubota Industrial Park ประกอบกิจการรีไซเคิลแยกชิ้นส่วนรถยนต์ โดยมีการพัฒนาปรับปรุงวิธีการแยกชิ้นส่วนตลอดเวลาจนปัจจุบันสามารถนำกลับไปขายและใช้ได้ใหม่ถึง 92-99% อีกทั้งมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้มาจากภาษีทำลายสินค้าและรายได้จากการขายชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้แล้วจากตลาดญี่ปุ่นและการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ

เข้าเยี่ยมชมผู้ประกอบการบริษัท G-TEKT Co., Ltd. ณ จังหวัด Saitama ประกอบกิจการชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงระดับโลก เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับ Honda, Subaru และ Toyota มีการใช้หุ่นยนต์ Automation เป็นหลักในการผลิต มีการใช้กล้อง AI ช่วยในการ QC ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Roof ถึง 30% ของความต้องการทั้งหมดของโรงงาน ซึ่งแสดงถึงความสามารถของเทคโนโลยีขั้นสูงในการยกระดับกระบวนการผลิตให้รวดเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และลดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีโรงงานในไทย 3 แห่ง คือ นิคมฯ บ้านหว้า (Hi-Tech), นิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ดปลวกแดง และนิคมฯ เกตุเวย์

ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568
กองลูกค้าสัมพันธ์ออกบูธนิทรรศการในงาน M-Tech Tokyo 2025 ณ Makuhari Messe จังหวัด Chiba ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนอกจากมีการออกบูธจากบริษัทต่างๆ มีการออกบูธจากต่างประเทศ เช่น Thailand Pavillion และ Taiwan Pavillion

โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุนของไทยเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการ BOI, นายชนินทร์ ขาวจันทร์ นายกสมาคม Thai Subcon, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน และเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 6 แห่ง ได้แก่ WHA นำโดยนางสาวลัดดา โรจนวิไลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ และนายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่ดินและอาคารอุตสาหกรรม, AMATA นำโดย Mr. Osamu Sudo Acting Chief Marketing Officer, ROJANA ได้แก่ Mr. Tatsuya Osaka และ Mr. Taiki Yamanuki, Pinthong นำโดยนายสุรัช พัฒนวงศ์ยืนยง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ, อุบล นำโดยนายนนทวัชร์ เลิศสุรวิทย์, เขตอุตสาหกรรมนวนคร และมีผู้ประกอบการเอกชนไทย 16 บริษัท เข้าร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ภายในบูธ Thailand Pavillion ในครั้งนี้

สถิติภาพรวมงาน M-Tech Tokyo 2025 ในครั้งนี้
มีบริษัทเข้าร่วมกิจกรรมออกบูธมากกว่า 1,200 บริษัท, ผู้เข้าชมงานสะสมมากกว่า 80,000 คน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม Mechanical Components, Materials, Automotive and Parts, Purchasing, Production Engineering เป็นต้น

ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามารับฟังข้อมูลและเจรจาธุรกิจในบูธ Thailand Pavillion อย่างต่อเนื่องตลอดงาน มีผู้สนใจขอข้อมูลภาพรวม, โลเคชั่น และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกนอ. และสร้างโอกาสให้ผู้พัฒนานิคมฯ นำเสนอพื้นที่ต่างๆ ให้แก่นักลงทุนญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจลงทุนในประเทศไทยจากนักลงทุนญี่ปุ่นที่ยังมีอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน